วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม


วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม (เกิด 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955) หรือที่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ บิล เกตส์เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับพอล แอลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิล เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สามได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน (KBE) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2

ประวัติ

บิล เกตส์ เกิดที่เมืองซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 บิดาชื่อนายวิลเลียม เอ็ช เกตส์ จูเนียร์ มีอาชีพนักกฎหมายของบริษัท มารดาชื่อแมรี แมกซ์เวล เกตส์ เป็นสมาชิกคณะกรรมการของ Berkshire HathawayFirst Interstate BankPacific Northwest Bell และคณะกรรมการแห่งชาติของ United Way ชื่อเต็มของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม ปู่ของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ซีเนียร์
เกตส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนเลคไซด์ อันเป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองซีแอทเทิล ที่นั่นเองที่เขาได้พัฒนาทักษะในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม บิล เกตส์ กับ พอล อัลเลน เพื่อนสนิท ได้แอบย่องเข้าไปในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ทั้งคู่ถูกจับได้แต่ก็ได้เจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนได้ใช้ฟรี ต่อมา บิล เกตส์ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ต้องพักการเรียนไปโดยไม่จบการศึกษา เพื่อที่จะได้เริ่มประกอบอาชีพทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับสตีฟ บาลเมอร์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมห้องในหอพักระหว่างที่เป็นนักศึกษาปี 1
ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขาได้ร่วมกับ พอล อัลเลน เขียนต้นแบบ ภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นโปรแกรมอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จทางการค้าในกลางคริสต์ทศวรรษที่ 70) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาษาเบสิก ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้ง่าย ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดยดาร์ทเมาท์คอลเลจเพื่อใช้ในการเรียนการสอน
เกตส์สมรสกับ เมลินดา เฟรนช์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1994 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันสามคน เจนนิเฟอร์ แคทารีน เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1996) โรรี จอห์น เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1999) และ ฟีบี อาเดล เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2002)
ในปี ค.ศ. 1994 บิล เกตส์ได้ม้วนกระดาษไลเชสเตอร์ ซึ่งรวบรวมงานเขียนของเลโอนาร์โด ดา วินชีมาไว้ในครอบครอง และในปี ค.ศ. 2003 ได้นำม้วนกระดาษนี้ออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองซีแอทเทิล
ในปี ค.ศ. 1997 เกตส์ได้ตกเป็นเหยื่อของแผนการขู่กรรโชกทรัพย์อันแปลกประหลาด ของนายอดัม ควินน์ เพลตเชอร์ ชาวเมืองชิคาโก ซึ่งเกตส์ก็ได้ขึ้นให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีดังกล่าว เพลตเชอร์ถูกตัดสินลงโทษเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1998 และถูกจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ค.ศ. 1998 เกตส์ถูกนายโนเอล โกดังจู่โจมด้วยการปาขนมพายหน้าครีมใส่ ระหว่างการไปปรากฏตัวที่ประเทศเบลเยียม
ตามรายงานของนิตยสารฟอบส์ เกตส์ได้บริจาคเงินให้การรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2004 และตามรายงานของศูนย์เฝ้าระวังทางการเมือง เกตส์ถูกระบุว่าบริจาคเงินอย่างน้อย 33,335 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับการรณรงค์หาเสียงมากกว่า 50 ครั้ง ตลอดฤดูกาลเลือกตั้งในปีค.ศ. 2004
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 บิล เกตส์ ได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารของ Berkshire Hathaway เพื่อสานความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างเขากับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ Berkshire Hathaway เป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอา บริษัทประกันภัยไกโค Benjamin Moore (บริษัทสี) และ Fruit of the Loom (บริษัทสิ่งทอ) เข้าไว้ด้วยกัน เกตส์ยังได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารของ Icos ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของBothell
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2005 สำนักวิเทศสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรได้ประกาศว่า บิล เกตส์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนที่ต่อสิ่งเขาได้อุทิศให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักร และความพยายามของเขาในการลดปัญหาความยากจนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นบุคคลสัญชาติในกลุ่มประเทศเครือจักรภพ เขาจึงไม่สามารถใช้คำนำหน้าว่า เซอร์ ได้ แต่เราต้องใส่อักษร "KBE" (Knight Commander of The British Empire) ตามหลังชื่อของเขา

[แก้]คฤหาสน์ของครอบครัวเกตส์

ครอบครัวเกตส์อาศัยอยู่ในเขตชานเมืองเฉพาะผู้มีสิทธิ์พิเศษของเมดินา รัฐวอชิงตัน ในคฤหาสน์หลังใหญ่ข้างหุบเขาที่เมื่อมองออกไปจะเห็นทัศนียภาพของทะเลสาบวอชิงตัน บ้านของครอบครัวเกตส์เป็นบ้านสมัยใหม่ของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ในรูปแบบของ "กระท่อมแปซิฟิก" โดยมีระบบอิเล็กทรอนิกส์อันทันสมัยอยู่ทุกส่วนของบ้าน ในแง่หนึ่งมันดูเหมือนแมนชันในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 หรือ 19 เสียมากกว่า. ในบ้านยังมีห้องสมุดส่วนตัวขนาดใหญ่พร้อมห้องอ่านหนังสือที่มีหลังคาเป็นรูปโดม ในขณะที่บ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมคลาสสิก มันก็มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์อยู่หลายอย่าง ผู้เยี่ยมชมจะถูกตรวจค้นและได้รับไมโครชิปก่อนเข้ามาในบ้าน ชิปขนาดเล็กจะส่งสัญญาณในขณะอยู่ในบ้าน และจะระบบควบคุมปรับอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ ตามที่ได้ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า จากบันทึกสาธารณะของเขตคิง เคาท์ตีในปี ค.ศ. 2002 มูลค่าโดยประมาณของอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน และ บ้าน) ถูกตีราคาไว้ถึง 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาษีโรงเรือนประจำปีมีมูลค่าเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่เล็กน้อย

[แก้]มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์

บิล เกตส์ กับภรรยาได้ก่อตั้ง มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ขึ้นเพื่อเป็นองค์กรการกุศล และได้อุทิศเงินทุนของมูลนิธิให้เป็นเงินกองทุนเพื่อทุนการศึกษาในวิทยาลัยของชนกลุ่มน้อย เป็นทุนวิจัยเพื่อการป้องกันโรคเอดส์ อันเป็นโรคซึ่งแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศโลกที่สาม รวมทั้งยังสนับสนุนโครงการการกุศลอื่น ๆ อีกหลายโครงการ มูลนิธิได้ให้เงินงบประมาณเพื่อการกำจัดโรคโปลิโอให้หมดไป คิดเป็นมูลค่ากว่าร้อยละ 90 ของงบประมาณทั้งโลกเพื่อการนี้ อันเนื่องมาจากนโยบายขององค์การอนามัยโลก ที่มุ่งประเด็นความสนใจไปยังโรคอื่น ๆ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1999 บิล เกตส์ และภรรยาได้บริจาคเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับมูลนิธิของทั้งคู่ และพวกเขายังบริจาคเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคเอดส์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2005 ได้มีการประกาศว่ามูลนิธิได้บริจาคเงินเพิ่มขึ้นอีก 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกองทุนวัคซีน เพื่อช่วยในการต่อสู้กับโรคต่างๆ เป็นต้นว่าโรคคอตีบ โรคไอเกรน โรคหัดเยอรมัน โรคโปลิโอ และ ไข้เหลือง และล่าสุดใน ค.ศ. 2005 มียอดเงินบริจาคอยู่ที่ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุด ในเดือนกรกฎาคม 2006 บิล เกตส์ ประกาศอำลาตำแหน่งสถาปนิกซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ เพื่อจะได้มีเวลาอุทิศตนเพื่องานการกุศลของมูลินิธิบิลและเมลินดา เกตส์มากขึ้น โดยขอเวลาสองปีเพื่อถ่ายโอนงานให้เรียบร้อย

[แก้]กรณีนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 บิล เกตส์ และผู้บริหารไมโครซอฟท์หลายราย มีความต้องการที่จะยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด แต่ภายหลังกระแสข่าวก็ได้เงียบหายไป[4]

[แก้]เกียรติประวัติ

[แก้]ประมาณการทรัพย์สินของเกตส์

บิล เกตส์ ติดอันดับหนึ่ง จากการจัดอันดับ "ฟอร์บ 400" ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2005 และติดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของนิตยสารฟอร์บ ในปี ค.ศ. 1996 และระหว่างปี ค.ศ. 1998-2005 ซึ่งจากการจัดอันดับดังกล่าว สรุปได้ว่าทรัพย์สินสุทธิของเขามีมูลค่าดังต่อไปนี้:
  • ค.ศ. 1996 - 18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 1997 - 36.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 ของโลก ([2]) (รองจากสุลตานโบลเกียแห่งบรูไน ผู้ซึ่งอยู่ในการจัดอันดับของปีนี้ แม้ว่าฟอร์บจะมีนโยบายไม่รวมประมุขของรัฐไว้ในการจัดอันดับก็ตาม)
  • ค.ศ. 1998 - 51.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 1999 - 90.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2000 - 60.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2001 - 58.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2002 - 52.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2003 - 40.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2004 - 46.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2005 - 46.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
  • ค.ศ. 2006 - 46.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
การที่ทรัพย์สินสุทธิของเกตส์ มีมูลค่าลดลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา มีสาเหตุมาจากการที่หุ้นของไมโครซอฟท์มีราคาลดลง รวมถึงการที่เขาได้บริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้องค์กรการกุศลของเขา และแม้เขาจะมีรายได้ลดลง ตามรายงานของนิตยสารฟอร์บในปีค.ศ. 2004 เกตส์ยังได้บริจาคเงินรวมกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์กรการกุศลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เขาได้กลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลกไปเสียแล้ว แม้จะนับเอาประมุขของรัฐ (ผู้ซึ่งทรัพย์สินมาจากสถานะทางสังคม) ไว้ในการจัดอันดับด้วยก็ตาม (แม้ว่าการจัดอันดับตามมาตรฐานของนิตยสารฟอร์บนั้น จะไม่รวมเอาประมุขของรัฐเอาไว้ด้วย ฟอร์บได้จัดทำบัญชีประมาณการทรัพย์สินของประมุขแต่ละประเทศไว้ต่างหาก เมื่อนำรายชื่อจากการจัดอันดับทั้งสองแบบมารวมกันแล้ว พบว่าเกตส์เป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลก)

[แก้]การเยือนประเทศไทย

บิล เกตส์ ได้มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการมาเจรจากับคณะรัฐบาลเรื่องโครงการ Thailand.NET และแสดงวิสัยทัศน์ให้กับประชาชนทั่วไป โดยในช่วงเช้าได้รับประทานอาหารเช้ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้น และ บุญคลี ปลั่งศิริ พร้อมด้วย Andrew McBean ผู้บริหารของบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) หลังจากนั้นได้ขึ้นพูดที่ทำเนียบรัฐบาล และเข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสิ้นสุดภารกิจ ด้วยการขึ้นไปพูดที่ หอประชุมกองทัพเรือ ในงาน Thailand Digital Inspiration

[แก้]บิล เกตส์ในภาพยนตร์และโทรทัศน์

บุคลิกของบิล เกตส์ มักจะถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะของตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของเนิร์ดสุดอัจฉริยะ ผู้มีอำนาจล้นฟ้า ซึ่งบุคลิกดังกล่าวนี้มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมป็อป ในการใช้เกตส์เป็นแบบฉบับของ จอมกบฏ หรือ อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย ผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบัญชาการจักรวรรดิเทคโนโลยีเชียก็เต้นรูดเสา

ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ได้นำเสนอบิล เกตส์ ทั้งในแบบที่นำเกตส์ตัวจริงมาปรากฏตัว หรือจินตนาการตัวละครในแบบของเขาขึ้นมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จะนำบุคลิกที่กล่าวมาข้างต้นมาเป็นต้นแบบ และการที่บิลเกตเต้นรูดเสา สื่อมวลชนมักจะคิดว่าบิล เกตส์ วิตกจริตเกี่ยวกับไอคิวของเขา รวมทั้งเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับไอคิว และเชื่อกันว่าไอคิวของเกตส์อยู่ที่ราว 160 แต่อย่างไรก็ดี หลายคนประมาณการจากผลสอบ SAT exam (ที่ต้องใช้ในการสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) แล้วสรุปว่าเขามีระดับไอคิวอยู่ระหว่าง 120-140 เท่านั้นเอง

[แก้]ตัวละครบิล เกตส์ในนวนิยาย

ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่นำเสนอตัวละครบิล เกตส์ในรูปแบบนวนิยาย ได้แก่:
  • เดอะ เน็ท อินเตอร์เน็ทนรก (The Net - ค.ศ. 1995) — แองเจลลา เบนเน็ต นางเอกของเรื่องรับบทโดยซานดรา บูลล็อก เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์สาวผู้ชอบเก็บตัว เธอได้บังเอิญไปพบ ประตูหลัง (back door) ที่ทำให้สามารถเจาะเข้าโปรแกรมระบบรักษาความปลอดภัยที่กำลังจะถูกขายให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งโปรแกรมนี้ถูกออกแบบโดยบริษัทที่มีลักษณะคล้ายไมโครซอฟท์ โดยมี เจฟ เกร็ก เป็นเจ้าของ เขาเป็นเศรษฐีพันล้าน ผู้ซึ่งมีลักษณะคล้ายบิล เกตส์มาก จากการที่เราเห็นตัวของตัวละครนี้ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ฉาก การค้นพบดังกล่าวทำให้แองเจลลากลายเป็นเป้าของพวกแพรโทเรียน กลุ่มก่อการร้ายในโลกไซเบอร์ผู้จงรักภักดีต่อเกร็ก ซึ่งได้กระทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของแองเจลลา และพยายามจะฆ่าเธอ เพื่อที่จะเอาแผ่นดิสก์ที่เป็นหลักฐานมัดตัวการสำคัญคืนมา
  • สมองกลคนสวย (A.I. Love You - ค.ศ. 1996) — ตอนต้นของเรื่อง ฮิโตชิ และซาติ ได้พบกับแฮกเกอร์จอมโฉดยอดอัจฉริยะนามว่า บิลลี่ จี. ซึ่งภายหลังผู้แต่งก็ยอมรับว่ามีที่มาจากบิล เกตส์
  • พยัคฆ์ร้าย 007 ตอน พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย (Tomorrow Never Dies - ค.ศ. 1997) — เอลลิออต คาร์เวอร์ (รับบทโดย โจนาธาน ไพรซ์) เป็นประธานองค์กรผู้นำด้านการสื่อสาร หนึ่งในบริษัทที่คาร์เวอร์เป็นเจ้าของ ประกอบธุรกิจผลิตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่แฝงข้อผิดพลาดไว้ ซึ่งจะบังคับให้ผู้ใช้อัพเกรดระบบอย่างเป็นวงจรไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นยุทธวิธีในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของคาร์เวอร์นั้น ได้เคยปรากฏเป็นบทวิพากษ์วิจารณ์การผลิตระบบปฏิบัติการภายใต้การนำของบิล เกตส์อย่างต่อเนื่อง คาร์เวอร์และเกตส์ยังมีลักษณะที่คล้ายกันอีกด้วย
  • เดอะ ซิมป์สัน (15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998) (ปีที่ 9 ตอนที่ 5F11) — บิล เกตส์มาซื้อบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ไม่ชอบมาพากลของ โฮเมอร์ ซิมป์สันมีชื่อว่า CompuGlobalHyperMegaNet เกตส์สั่งให้ลูกสมุนของเขา "ซื้อขาด" กิจการของซิมป์สัน จนพวกเขากระทั่งสามารถรื้อทำลายสำนักงานได้ และเมื่อโฮเมอร์ทวงเงิน เกตส์ตอบว่า "โอ้ ผมไม่ได้รวยขึ้นมาจากการเขียนเช็คหรอกนะ! (ตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง) "
บิล เกตส์ ในการ์ตูนเรื่องเซาธ์ปาร์ก
  • South Park: Bigger, Longer, and Uncut (ค.ศ. 1999) — นายพลแห่งกองทัพบกสหรัฐนายหนึ่งได้มาร้องทุกข์ว่า วินโดวส์ 98 ของเขาที่เพิ่งอัพเกรดล่าสุด ไม่ได้เสถียรไปกว่าเวอร์ชันก่อนที่เป็น วินโดวส์ 95 และเรียกร้องจะขอพบบิล เกตส์ เมื่อตัวการ์ตูนเกตส์เริ่มชี้แจงเหตุผลว่า วินโดวส์ 98 ที่ใช้เทคโนแบบเบิลนั้นเสถียรแค่ไหน ท่านนายพลก็ได้ชักปืนออกมายิงเขา
  • Pretty Sammy 2 ภาพยนตร์เอะนิเมะชัน ที่มีตัวละครชั่วร้ายใช้ชื่อว่า บิฟ สแตนดาร์ด เจ้าของบริษัทผลิตซอฟต์แวร์สแตนด์ซอฟท์ ที่กำลังพยายามยึดครองตลาดระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่น (และมีคู่แข่งที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ชื่อว่า บริษัทไพน์แอปเปิล ซอฟต์แวร์) ด้วยการทำร้ายตัวละครเอกของเรื่อง
  • Pirates of Silicon Valley (ค.ศ. 1999) — ภาพยนตร์ที่นำเสนอประวัติของแอปเปิลคอมพิวเตอร์และไมโครซอฟท์ โดยมีแอนโทนี ไมเคิล ฮอล รับบทเป็นบิล เกตส์
  • Net Force ของ ทอม แคลนซี (ค.ศ. 1999) — หลายคนเชื่อว่าวิลเลียม สไตล พระเอกของเรื่อง ผู้ที่พยายามจะครองโลกด้วยการควบคุมระบบอินเทอร์เน็ตนั้น แท้จริงแล้วมีที่มาจากบิล เกตส์ โดยมีการระบุความพ้องกันของชื่อต้น วิลเลียม นั้นเป็นชื่อเต็มของบิล และ สไตล์ (stile) นั้นแปลว่าบันไดเล็กๆที่ใช้ปีนข้ามกำแพง แทนที่จะเข้าทางประตูรั้ว (gate)
  • แอนตี้ ทรัสต์ กระชากแผนจอมบงการล้ำโลก (ค.ศ. 2001) — ภาพยนตร์เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ในบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดยักษ์ในเรื่อง ทิม รอบบินส์ รับบทโดยแกรี วินตัน ประธานบริษัทมีบุคลิกลักษณะ และบริบทของตัวละครคล้ายคลึงกับบิล เกตส์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี แกรี วินสตันได้กล่าวถึงบิล เกตส์ (ในฐานะบุคคลที่สาม) ในช่วงหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการบอกโดยนัยว่าวินสตันนั้นไม่ใช่เกตส์ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นแค่วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกฟ้อง
  • Clockstoppers (ค.ศ. 2002) — เฮนรี เกตส์ เป็นประธานบริษัทขนาดใหญ่ยักษ์ ผู้ซึ่งต้องการจะครองโลกโดยใช้เทคโนโลยี (เฮนรี เป็นชื่อกลางของบิล เกตส์)
  • Nothing So Strange (ค.ศ. 2002) — เป็นเรื่องราวที่จินตนาการเกี่ยวกับการฆาตกรรมบิล เกตส์ใน ค.ศ. 1999
  • 2DTV (ค.ศ. 2004) (ชุดที่ 4 ตอนที่ 6) — บิล เกตส์อยู่ในบ้านรูปร่างเหมือนคอมพิวเตอร์ของเขาขณะที่กำลังเขียนจดหมายถึงลูกค้า เมื่อมีเจ้าหน้าที่สำนักงานคนหนึ่งโผล่เข้ามาสร้างความรำคาญให้กับเขา ท้ายสุด ตัวการ์ตูนเกตส์เกือบจะต้องฆ่าตัวตาย เราสังเกตเห็นข้อความบนโน้ตกระดาษว่า "หวัดดีพวก ดูเหมือนนายกำลังจะเขียนจดหมายลาตายนะ" จากนั้นก็มีลูกค้าหัวเสียจำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มาพูดกับเขาว่า "นายต้องการความช่วยเหลือไหม?" เกตส์ยังปรากฏตัวในตอนที่ 4 ของการ์ตูนชุดนี้ ในตอนล้อเลียนที่ใช้ชื่อว่า "แมทริกซ์สำหรับวินโดวส์" ล้อเลียนระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นๆทุกที
  • Family Guy (ปีที่ 3 ตอนที่ 13) — เกตส์บินไปด้วยเครื่องเจ็ตแพค (เครื่องบินส่วนตัวแบบขึ้นลงทางดิ่ง) กับผู้บริหารระดับสูง และไมเคิล ไอสเนอร์ประธานกรรมการบริหารของวอลต์ ดิสนีย์ ผู้ซึ่งกล่าวว่า "พระเจ้า ผู้คนดูเหมือนมดเมื่อมองจากข้างบนนี่" แล้วเกตส์ก็ตอบกลับไปว่า "พวกมันคือมด ไมเคิล พวกมันคือมด!"
  • ใน Command & Conquer: Yuri's Revenge ชายผู้หนึ่งซึ่งเราทราบเพียงว่าเขาชื่อ "ท่านประธานบิง" ปรากฏตัวในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแมสซีฟซอฟท์
  • ใน Robopon 2 (วิดิโอเกมสำหรับเครื่องเกมบอย แอดวานซ์) มีชายผู้หนึ่งชื่อนายเกต (Mr. Gait) เป็นเจ้าของเครือบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดยักษ์ที่มีชื่อว่า แมคโครซอฟท์
  • ในตอนหนึ่งของละครเรื่อง Pinky And The Brain ที่กล่าวถึงสโนวบอลล์ คู่แข่งที่เก่งกล้าของเดอะเบรน กำลังพยายามครองโลกโดยการปลอมตัวเป็นเศรษฐีพันล้านนักออกแบบซอฟต์แวร์ชื่อว่า "บิล เกรตส์"
  • ใน Lois & Clark (ปีที่ 3 ตอนที่ 3 ชื่อตอน "Contact") แพทริก บาลีออร์โท รับบทเป็นนักธุรกิจซอฟต์แวร์ชื่อว่า "บ็อบ เฟนซ์" (Fence = รั้ว) ซึ่งเป็นการเล่นคำกับชื่อของเกตส์ (Gate = ประตูรั้ว)

[แก้]การปรากฏตัวในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์

บิล เกตส์ตัวจริงยังได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์:
  • ละครตลกขบขันเรื่อง Frasier — บิล เกตส์ถูกเชิญให้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการวิทยุของดร.เฟรซิเออร์ เครน อย่างไรก็ดี ทันทีที่รายการเริ่มขึ้น ผู้ฟังทางบ้านที่โทรเข้ามาต่างมีคำถามมากมายจะถามเกตส์เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ แต่ดร.เครนไม่ได้ใส่ใจกับเสียงโทรศัพท์
  • Triumph of the Nerds — บิล เกตส์ได้ให้สัมภาษณ์ในภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

[แก้]การอ้างอิงถึงบิล เกตส์ในซอฟต์แวร์ต่าง ๆ

โปรแกรมคอมพิวเตอร์หลายตัว ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานบนระบบปฏิบัติการอื่นนอกเหนือจากไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ได้อ้างถึงบิล เกตส์ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม โดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยจะอ้างถึงในทางชื่นชมสักเท่าไรนัก ซึ่งในจำนวนนี้มี:
  • เกมโอเพนซอร์ส XBill ซึ่งมีตัวละครชื่อ "บิล" ใส่แว่นตากรอบหนา กำลังพยายามจะลง วิงโดวส์ (โปรแกรมไวรัสที่ปลอมตัวมาเป็นวินโดวส์) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น
  • เกม Uropa² บน Amiga ที่มีตัวร้ายหลักชื่อว่า "บิล เซแทก" (Setag = Gates สะกดแบบถอยหลัง)
  • ในเกม Might and Magic VII: For Blood and Honor ผู้เล่นถูกมอบหมายภารกิจหนึ่งให้สังหารตัวละครผู้ชั่วร้ายชื่อว่า "วิลเลียม เซแทก" และช่วยเหลือเจ้าหญิงที่ถูกมันจับไป
  • Arcanum: Of Steamworks and Magick Obscura บน ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ได้มีตัวละครตัวหนึ่งชื่อว่า "กิลเบิร์ต เบตส์" ผู้ประกอบการผู้มั่งคั่ง ชื่อของตัวละคร "กิล เบตส์" เป็นคำผวนของ "บิล เกตส์" นั่นเอง
  • ในSpace Quest III: The Pirates of Pestulon เกมแอดเวนเจอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ได้กล่าวถึงบริษัทซอฟต์แวร์ชื่อ "สกัมซอฟท์" ซึ่งเป็นชื่อล้อเลียนไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน ประธานบริษัทผู้ชั่วร้าย เป็นชายร่างเล็ก มีบุคลิกแบบพวกเนิร์ดสวมแว่นตา มีชื่อว่า "เอลโม พัก" ผู้ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับบิล เกตส์มาก
  • โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับออกแบบคอมพิวเตอร์ชิป อันเป็นผลิตภัณฑ์ของ Electronic Design Automation ใช้ชื่อว่า "Build Gates" (สร้างประตู) ซึ่งประตูในที่นี้หมายถึงประตูตรรกะ (logic gate)
  • Kill Bill edition เป็นชื่อแผ่นซีดีสำหรับบู้ทลินุกซ์ของ SLAX ซึ่งล้อเลียนภาพยนตร์เรื่อง นางฟ้าซามูไร (Kill Bill) ภาพวอลล์เปเปอร์ของผลิตภัณฑ์เป็นรูปตัวทักซ์ (นกเพ็นกวินสัญลักษณ์ของลินุกซ์) ในชุดสีเหลืองคล้ายกับที่นางเอกเรื่องนางฟ้าซามูไรสวมใส่ เพื่อที่จะสังหารบิล (เกตส์)
  • ในวิดิโอเกมมาเฟียของ Illusion Softworks คนชื่อ "วิลเลียม เกตส์" ออกมาปรากฏตัวในฐานะคนขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ชาวเคนทักกี
  • ในเกมกลยุทธ์คลาสสิก Total Annihilation: Core Contingency มีส่วนหนึ่งของเนื้อเมืองในเกมที่มีชื่อว่า "อาคารวิลลี เกตส์" ซึ่งถ้าหากผู้เล่นยึดอาคารหลังนี้ได้จะทำแต้มได้มาก

0 ความคิดเห็น:

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More