วีรสตรีแห่งสุวรรณโคมคำ หญิงผู้ปิดทองหลังพระ
โดย Realjung (นักประพันธ์ฝีปากอมตะ)
“คุณอาเทพอาภา อุบาสิกาผู้ใจบุญ
บริจาคที่สร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรม” ที่ที่หายไปหลายวัน
เรียวจุงไปสืบทราบธรรมสถานสุวรรณอาภาและมูลนิธิสุวรรณโคมคำ ไปรู้เห็นอะไรดีๆมา
เบื้องหลังความสำเร็จเป็นหญิงคนนี้เองรึนี่ เธอคือทุกสิ่ง เธอคือทุกอย่าง
เธอช่างประเสริฐ ถวายที่พิษณุโลกส่วนหนึ่งในจำนวนที่นับร้อย
ยังอุปถัมภ์เงินทองทุกรายเดือน จนมูลนิธิและสถานปฏิบัติธรรมเติบใหญ่
แต่เธอชอบปิดทองหลังพระ ความดีที่ทำยกให้กะสงฆ์ไปหมด
เธอเฝ้าติดตามและเฝ้ามองการเจริญเติบโตของสถานปฏิบัติธรรมและมูลนิธิ
เรื่องจริงและของจริงอยู่ตรงนี้ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิตัวจริง สร้างทำสถานธรรมะปฏิบัติ
แต่เธอยกพระสงฆ์ให้เป็นใหญ่ในตอนแรก คุณอาเทพอาภาวีรสตรีของสุวรรณโคมคำ
นิพ_พาน 2013 :4 กล่าวว่า ของแท้ต้อง
ปิดทองหลังพระ มิต้องมาตั้งกระทู้เป็นสิบเป็นร้อยกระทู้อวดอ้างสรรพคุณ ไม่ควรโฆษณาชวนเชื่อแบบไร้สาระเลย
ครั้งหนึ่ง
คุณอาเทพอาภาให้เข้าอบรมรัตตัญญูที่จิตตภาวันวิทยาลัยกับพระอาจารย์ใหญ่ธรรมบาล (ปรมาจารย์สุวรรณโคมคำตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน)
หลายปีก่อนเธอได้ปรารภถึงที่แปลงหนึ่งว่าทำกินไม่ขึ้น ประเดี๋ยวไฟไม้
เดี๋ยวก็น้ำท่วม….. หลังจากที่พระอาจารย์ใหญ่หลับตาสักพักหนึ่ง
ท่านได้ลืมตาพร้อมกับเอ่ยว่า ที่นี้แรง เป็นที่โบราณหลายยุคสมัย
มีเค้าว่าป็นศาสนสถานเดิม และเคยเป็นค่ายรบเก่ามาก่อน.
หากได้ผู้มีบุญมีความสุจริตใจพัฒนาจะเจริญได้
เธอไม่ลังเลที่จะปรารภถวายพระอาจารย์ใหญ่
เพราะเธอได้พบประสบเจอกับตัวหลายเรื่องเกี่ยวกับที่แห่งนั้น แต่... แต่.
พระอาจารย์ใหญ่บอกเธอว่า อาตมาเป็นสงฆ์บวชละทุกอย่างแล้ว ไม่ประสงค์รับที่ใด ๆไว้เป็นส่วนตัว
ลองไปปรึกษาลูกศิษย์อาตมาดูสิ๊ หลังจากนั้น
เมื่อคุณอาเทพอาภาปรึกษาหารือกับสามีและลูก ๆ
เธอจึงมอบถวายให้กับคณะสงฆ์สุวรรณโคมคำในสมัยนั้น
ให้จัดตั้งเป็นมูลนิธิและดำเนินงานในนามคณะบุคคล
ไม่ให้ทำบุคคลโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันบุคคลใดบุคคลหนึ่งนำไปแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์คณะทีมงานผู้ก่อตั้งได้ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เธอผู้ถวายที่ว่า
“สุวรรณาภา” แปล
แสงทองแห่งความรุ่งโรจน์ แต่นั้นมา
ที่ผืนดังกล่าวก็ได้พัฒนาเรื่องมาโดยการอุปการะตามกำลังของเธอไม่ได้ขาดตกบกพร่องจนเป็นปรึกแผ่น
เรื่องต่าง ๆ สำเร็จสมใจคุณอาเทพอาภาทุกอย่าง เป็นที่อนุโมทนา
มีทีท่าว่าเป็นไปได้ดี แต่แล้วข่าวร้าย ๆ กลับเกิดผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด
มีข่าวว่าเธอจะขอสำนักและมูลนิธิคืน เธอผลาญเงินก่อตั้งจนไม่เหลือสักแดงเดียว
เธออยู่เบื้องหลังความชั่วร้ายทุกอย่าง.... ไงเป็นเช่นนั้นได้ ทั้งที่เธอเป็นผู้ก่อร่างสร้างทำมากับมือใครกัน
? เป็นคนปล่อยข่าวลวงโลกให้เธอเสียชื่อเสียงปณิธานเดิม
เธอยังมีที่อีกหลายแห่งในบริเวณเดียวกันที่ยังไม่ได้ถวาย จำนวนครึ่งร้อยไร่
เธอตั้งใจแต่ต้นแล้วว่าจะถวายให้ครบหมดทั้งร้อยไร่ ฝังอริยทรัพย์ไว้ในศาสนา
สมบัติเงินทองของนอกตัว ตายแล้วเอาไปได้ที่ไหน
อริยทรัพย์เป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวไปได้ เธอตระหนักและรู้ถึงข้อนี้ดี
แต่สิ่งที่เธอเจอกลับตรงกันข้าม ถึงความไม่เหมาะสมของนักบวช
นักบวชที่เธอให้ความเคารพศรัทธานับวันแสดงอากัปกิริยาเสื่อมถอย เผยธาตุแท้รบเร้าจนน่าเบื่อถึงที่ดินอีกจำนวนหนึ่งครึ่งร้อยไร่
เขาให้คนโทรมาชี้นำ พูดให้คิด หนักเข้าถึงกับข่มขู่คุณอาว่าขืนไม่ให้ที่ดินเพิ่ม
จะยัดอีกหลายคดี นักบวชฉลาดยืมปากคนอื่นพูดแทนจริงซะ ฉลาดปั้นน้ำเป็นตัว
โยงเรื่อง. สปก.อีรุงตุงนังให้น่าเชื่อ ปลุกปั่นคนในชมรมให้เกลียดคุณอาเทพและคนของคุณอามากขึ้น
คุณอาเทพประสบทุกข์หนักถึงคำขู่ไม่เว้นแต่ละวี่วัน
อำนาจตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่เธอคนเดียว เธอต้องปรึกษาลูก ๆ
และสามีผู้เป็นที่รักกับเรื่องถวายที่ดินเพิ่ม แต่ทุกคนไม่เห็นด้วย
หลังสังเกตพักใหญ่ เห็นความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง
เธอจึงรีบปรึกษาพระผู้ใหญ่วัดดังย่านเจริญกรุง
พระผู้ใหญ่แนะนำให้ชะลอไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจ..... อย่าเพิ่งถวายที่ดินเพิ่ม
ใจเย็น ๆ..... เธอเชื่อคำพระผู้ใหญ่พระองค์นั้นคุณอาไม่ถวายที่ของเธอเองเพิ่ม
เธอผิดด้วยหรือ ? ศาสนาสอนไว้
ทำบุญต้องมีปัญญาเธอทำตามคำศาสดาที่เธอนับถือ เธอผิดด้วยเหรอ ?
นานวันเข้าข่าวนักบวชกับสีกาลอยเข้าหูเธอแทบทุกวัน
เรื่องแบบนี้เธอไม่วางใจนานแล้ว แมวเหมียวกับปลาย่าง น้ำมันกับไฟ
สีกาสาวกับนักบวชหนุ่ม ของแบบนี้ใกล้กันที่ไหน ตอนนั้น เธอเพิ่งรู้
ว่าการเงินการทองของส่วนรวมที่บริหารโดยนักบวช
เงินที่ได้จากการบริจาคพบมีโอนเข้าบัญชีของสีกาสาวคนสนิทที่คอยรับส่งเช้าเย็นในกทม.และต่างจังหวัด.........................
? เงินหายไปไหนหมดจากที่รับบริจาค ผ้าป่าได้เป็นล้าน ? กัลยาณมิตรของเธอหลายคนช่วยให้ข้อมูล
เป็นที่ทราบกันถึงสีกาสาวคนนี้ว่าเป็นใครในชมรม (She คือคนเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์)
เรื่องเงิน นักบวชวางใจสีกาคนนี้มาก อ้างความสะดวกในการเบิกจ่าย สืบทราบ She ซื้อวีโก้คันงาม เที่ยวขี่อวดใครต่อใคร ในเวลาอีกไม่นาน
พฤติกรรมสีกากะนักบวช การเงินที่ไม่โปร่งใสผสมกับที่คุณอาไม่มีอำนาจ
ทุกอย่างถูกเผด็จการโดยนักบวชคนเดียว ปัญหาที่หาทางออกไม่เจอเหมือนกบไม่เห็นตะวัน
คุณอาตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการในตอนนั้นอย่างจำใจ
ขืนยังอยู่ชื่อเสียงความสุจริตที่สั่งสมนับแรมปีจะต้องพังย่อยยับป่นปี้ไม่เป็นชิ้นดี
จะมองหน้าใครได้อีก ทราบคุณอาเป็นถึงรองประธานกรรมการ การลาออกของคุณอาทำเอาหลายคนเริ่มรู้ถึงความไม่บริสุทธิ์ของนักบวชกับสีกาสาวรวมเรื่องการเงิน
ต่อมาไม่นาน
กรรมการคนหนึ่งทราบเรื่องถึงกับอายัดบัญชีขณะที่นักบวชบริหารอยู่ตอนนั้น
พอคุณอาลาออกได้ไม่ถึงปีกว่า นักบวชก็ถูกวัดดังจับสึกด้วยเรื่องสีกา
ด้วยข้อหามีสัมพันธ์ทางเพศกับสีกาสาวหลายคน
พวกชมรมและพวกมูนิธิที่ทราบเรื่องถึงกับปลดนักบวชออกจากทุกตำแหน่งก็เพราะทนรับเรื่องสีกาไม่ไหวจากเรื่องที่แดงขึ้น
ที่ฟังๆ เขาพูดกัน ก็ว่า นักบวชแอบอึ๊บ กรรมการแอบปลด สมน้ำสมเนื้อกันแล้วแหละตอนนั้นทั้งชมรม
แถวสาธุ ลาออกกันหมดสิ้น เป็นช่วงปี 53 เหลือแต่ตัวหัวเน่าห่มเณรกับคนไม่รู้ตื้นลึกไม่กี่คน
ชมรมวันนี้ก็ทรุดโทรมล้มเหลว แต่ตัวหัวเน่าห่มเณรพยายามนั๊กหนาที่จะโปรโมททุกทาง
ต่อให้โจมตีคนอื่นข้าง ๆ คู ๆ ก็ทำ แต่ดูท่าแล้วยากเสียกว่าเข็นภูเขาขึ้นครก
บางทีนึกขำ ๆ เหมือนกันกะคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ เอาเรื่องชั่วของตัวเองมาประจานให้ชาวบ้านรู้
ทำอะไรไม่รู้จักคิดให้ดีก่อน เรื่องใช่จะจบแค่นี้.
มีต่อกับสิ่งที่คุณอากำลังดำเนินการขั้นเด็ดขาด ตอนนี้ให้ทนายดำเนินการแล้ว
เรื่องที่ดิน
รื่องชมรมศิษย์
น้อยคนที่จะรู้ว่าคุณอานี้แหละคือผู้ก่อตั้งตัวจริง สมัยเริ่มก่อตั้ง หาคนที่ทรงคุณวุฒิมาเป็นไม่ได้
คุณอาได้วานแพทย์หญิงสุจิตตาเพื่อนสนิทของเธอมาช่วยเป็นประธานคนแรกให้กับชมรม
แต่นักบวชหื่นพยายามบงการการทำงานของเธอตลอด
เธอไม่สะดวกกับการทำงานแบบนี้จึงลาออกจากประธานในอีกไม่นาน
จากนั้นประธาน Joy เทพย์สถิต สาธุประดิษย์ (ทราบถัดจากที่ตั้งชมรมปัจจุบันไม่กี่คูหา
เธออยู่ตรงนั้น) เธอได้มาอุ้มชูชมรมต่อจากแพทย์หญิงผู้สูงศักดิ์
นักบวชหื่นอาศัยเชื่อเสียงของเธอจากการที่เธอเคยเป็นอาจารย์ของปูโลกเปี้ยว
เหตุที่ชมรมถูกมหาเถระขับออกจากวัดดัง
ก็เหตุเห็นนักบวชพัวพันกับสีกาขับรถส่งเช้าเย็น ดูท่าไม่ยากให้วัดเสื่อมชื่อเสียง
วัดดังใช้แผนถีบหัวส่งไปให้พ้นๆ พอพ้นอ้อมอกวัด joy คนนี้รับไว้ในอ้อมกอด
ทอดกฐินผ้าป่าหาเงินช่วยนักบวชอยู่ไม่น้อย แต่เพราะเป็นคนไม่ยอมให้ใครกดหัวเอาได้
ถูกใช้งานเยี่ยงทาส กับที่เธอผ่านอะไรมามาก ดันรู้ทันนักบวชซะนี่
เลยถูกเขี่ยออกจากชมรม หลังจากที่นักบวชตั้งตัวได้
ต่อจากท่าน Joy ก็เป็นประธาน L ศิษย์พระอาจารย์ใหญ่รุ่นแรก
นักบวชกลัวว่าท่าน L จะเด่นกว่าเพราะข่าวว่าเรียนมาด้วยกัน
จึงพยายามกดหัวไว้ทุกทาง ท่าน L ทนไม่ได้
และรู้อีกว่าหญิง li เพื่อนสาวถูกกระทำด้วย
จบที่ลาออก
ข่าวแดงเรื่อง “สีกา”ชนวนปัญหาสำคัญ
ข่าวสีกาเป็นชนวนปัญหาใหญ่ในชมรมศิษย์
ท่านกานก เป็นประธานฝืนทนรับหน้าเสื่อ ทนรับไม่ไหว ประกาศลาออกในที่สุด
ท่านเทพธัญญ่า
ประธานคนต่อไป เธอคนนี้ศรัทธานักบวชยอมมอบกายถวายชีวิต
เชื่อว่านักบวชเน่าจะเป็นพระพุทธเจ้า มาตรัสรู้ณแดนพุทธสัญญาตรงที่พักสงฆ์ศรีเล็ก
ๆ (พร้อมน๊อคดาวสีชมพูของรางวัลสำหรับสีกาสาว)
/ที่ทอดผ้านับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ
ทุกวันนี้ชาวบ้านเกลียดเข้าไส้กันหมดแล้ว/
เทพธัญญ่าเธอยอมขึ้นลงพิษณุโลกซื้อที่ทางไว้หวังรอรับรสพระธรรมฉ่ำใจจากว่าที่พระพุทธเจ้า
แต่ผิดหวังกับพฤติกรรมทรามหลายอย่างของนักบวช
พระโพธิสัตว์ที่เธอรอคอยกลับกลายเป็นซาตาน ซะนี่ ในเวลาไม่นาน
เธอโดนโพธิสัตว์เก๊ต้มซะเปื่อยจนไม่กล้าโผล่หน้ามาที่ชมรมแห่งนี้อีกเลย
มีคนพูดกันมากขึ้นทุกวัน
ว่าชมรมแห่งนี้ มีแต่ความหลอกลวง หลอกคนมาเป็นทาสรับใช้ หลอกคนมาสนองกิเลสกามตัณหาของนักบวช
ดูเอาเหอะว่างานครบรอบ
๑๐ ปี ไม่เห็นอดีตประธานชมรมโผล่หน้ามาสักคนเดียว เห็นแต่เณรโต
ที่อุปะโหลกเป็นปฐมาจานชั่วข้ามคืนถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ในจำนวนหลายครั้งของชมรมศิษย์แม้แต่
(พระองค์เป็นสุมาอี้แห่งสุวรรณโคมคำ) เพิ่งจะโดนสั่งทิ้ง เหมือนขี้มูกก็ไม่ปาน
รัตนะมาตีเห็นใจท่านสุมาอี้นั๊ก
ทนไม่ได้ถึงกับออกมาแฉเรื่องจริงเป็นพัลวันว่าเกิดอะไรขึ้นในชมรมและพฤติกรรมของนักบวชเน่า
ทุกวันนี้พระองค์นี้
ดุทีท่าถูกถีบออกจากชมรมหื่นแล้ว หลังจากที่ลืมตัวไปเป็นข้ารับใช้อยู่นาน
(ข่าววงใน)ปัจจุบัน ชมรมแห่งนี้ไม่มีประธาน (ถูกครอบงำโดยนักบวชเน่า
ที่คอยตีปี๊บเคาะกาละมังไปวัน ๆ) ถึงมีก็เปิดเผยไม่ได้
เพราะประธานไปทำที่หน้าที่เห่าหอนแทนตัวหัวเน่า
เป็นการเสียเกียรติประวัติของชมรมจะนำเผยต่อสาธารณชนน่าเสียดาย วันนี้ ชมรมดังว่า
กลายเป็นที่ช่องสุมเพื่อต่อสู้คดีความฟ้องร้อง เป็นที่หาแนวร่วม
หาพรรคพวกเพื่อโจมตีคนอื่นไปซะแล้ว เป็นที่ซักรีดความผิดให้บางคนขาวสะอาด
ไม่ได้ทำอะไรเพื่อสังคมเลย นึกแล้วก็อนาถใจ! ตอนนี้มีคนเรียกชมรมแห่งนี้ว่า “ชมรมศิษย์สุวรรณกลุ่มกาม” แล้วส่วนตัวเชื่อชมรมมีวัตถุประสงค์การทำงานที่ดี
แต่ได้คนจิตไม่ปกติ เจ้าคิดเจ้าแค้น ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ฉลาดกุเรื่องลวงโลก
หาสมัครพรรคพวกก่อกรรมทำเข็ญไม่เลิก สร้างความปั่นป่วนให้กับคนอื่น
อ้างเรื่องส่วนตัวเป็นส่วนรวม อ้างชาวสุวรรณโคมคำซะด้วย ร้ายจริง ๆ ไอ้คนพวกนี้
เมื่อไรยมบาลจะลากตัวไปปีนต้นงิ้วซะทีเน้อ
อ่านต่อฉบับหน้า
อ้างอิง
realjung (2013) , วีรสตรีแห่งสุวรรณโคมคำ หญิงผู้ปิดทองหลังพระ: เวปไซค์. http://board.palungjit.com .
http://board.palungjit.com/f16/%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3-%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-448760.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น