วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เรื่องเล่าพยานาค....

พญานาค เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นเดรัจฉานด้วย เพราะมีลำตัวไปทางขวางและไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พญานาคเลื้อยไปด้วยอกไม่เหมือนงูทั่วไป จะชูคอตลอด ต้องอ้าปากตลอดเพราะร้อนจากภายในด้วยวิบากกรรม มีพิษที่ เขี้ยว ผิวกาย ลมหายใจ และพิษที่ตา แปลงร่างได้ แต่ต้องกลับคืนเป็นพญานาคเมื่อเกิด ลอกคราบ เสพสังวาสกันนาคด้วยกัน นอนหลับ ตายตำนานของพญานาคที่เกี่ยวกับพระโพธิ์สัตว์ องค์สมเด็จพระสัมมาาสัมพุทธเจ้าสมัยที่ยังบำเบ็ญบารมีขณะที่เป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ก็เคยลงมาเสวยพระชาติเป็นพญาคในชาติที่เกิดเป็นภูริทัตต์ในพระชาติที่ ๖ ในทศชาติชาดก เรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญศีลบารมี คือการารักษาศีล . มีเรื่องเล่าว่า ภูริทัตตนาคราชไปจำศีลอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา. ยอมอดทนให้หมองูจับไปทรมานต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่สามารถจะทำลายหมองูได้ด้วยฤทธิ์ มีใจตั้งมั่นต่อศีลของตนยอมทรมานยอมตัวตายดีกว่าให้ศีลที่ตั้งใจรักษาไว้ขาด ในที่สุดก็ได้อิสรภาพ.
เรื่องของพญานาคในสมัยพุทธกาล ก็มีอยู่ในครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวกจะเสด็จขึ้นสู่ดาวดึงส์เทวโลก สววรค์ชั้นดาวดึงค์ มีพญานาคผู้ทรงฤทธิ์ตนหนึ่งชื่อ นันโทปนันทนาคราช ได้แผ่พังพานกางกั้นไม่ให้พระพุทธองค์ขึ้นไป พระพุทธเจ้าทรงให้พระมหาโมคคัลลาน์อัครสาวกผู้มากด้วยฤทธิ์ไปปราบลงได้ และได้รับการลงโทษให้เป็นนาคธรรมบาล หรือนาคพิทักษณ์พระพุทธศาสนา ตามที่เห็นเป็นบันใดนาคตามวัดต่างๆ และยังเป็นที่มาของหนึ่งในบทสวดพาหุึงฯที่ขึ้นต้นด้วย " นันโทป..."
ภูมิหลักพญานาคจะอยู่เมืองบาดาล หรือใต้พิภพ เป็นภูมิที่เกี่ยวข้องกับน้ำเป็นส่วนใหญ่ เป็มอีกมิติหนึ่ง ผู้ที่มีทิพย์จักษุญานหรือผู้ที่ทรงอภิญญาเท่านั้นที่สามารถจะเห็นและรู้ได้ และมีมิติซ้อนที่เชื่อมอยู่กับโลกมนุษย์ในสถานที่ต่างๆเช่นแม่น้ำโขง ทะเลสาบ แำหล่งน้ำสำคัญ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆี
พญานาคจะมีดวงแก้วคู่บารมีซึ่งอยู่ที่คอ จะบังเกิดด้วยบุญของตนสามารถเนรมิต อาหารทิพย์ ของทิพย์ต่าง ๆ ได้ พญานาคเมื่อปรากฎกายให้มนุษย์ทั่วไป เห็นอาจจะเป็นในลักษณะของงูขนาดใหญ่ จะแสดงกายทิพย์หรือกายที่แท้จริงให้ผู้ที่มีทิพย์จักษุญาน ผู้ทรงคุณธรรมวิเศษ หรือพระอริยเจ้าเท่านั้น คนธรรมดาที่ไม่รักษาศีลจะไม่สามารถเห็นพญานาคในกายทิพย์ของเขาได้เว้นแต่มีเหตุจำเป็นบางประการ
พญานาคมีอยู่ตั้งแต่สวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา จนถึงพื้นมนุษย์บ แล้วก็มีอยู่ ทั่วโลก เคยมีคนเป็น พญานาคตระกูลกัณหาโคตมะ
(ผิวสีดำ)ที่ตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ แม่น้ำสายหนึ่งของเมือง เซลยู (Seljord)ด้วยนะครับ
ชาวเมืองแถวนั้นก็เคยเห็นกัน แต่พญานาคใต้บาดาลแถบนั้น มีจำนวนไม่มากนัก คือ น้อยกว่าแม่น้ำโขง ,
มีอายุไม่ยืน เท่าที่แม่น้ำโขงด้วยแค่ 200 กว่าปีเอง (อายุของนาคแต่ละประเภทไม่เท่ากัน)


พญานาคแบ่ง ออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ

พญานาคตระกูลสีทอง

ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง

พญานาค
ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
และตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

นอกจากนี้พญานาคยังแยกกลุ่มได้อีกหลายกลุ่มตามภูมิประเทศต่างๆ

**พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ
แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที
แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม
แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์
แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่
พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ
ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์(ท้าววิรูปักษ์เป็นหนึ่งในท้าวมหาราชทั้ง 4 ที่ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา)



ท้าวมหาราช

รูปท้าวมหาราชทั้ง ๔ วัดท่าซุง ต.น้ำซึม จ.อุทัยธานี
ท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
-ท้าวธตรฐมหาราช ทำหน้าที่ปกครองคนธรรพ์
-ท้าววิรุฬหก ปกครองกุมภัณฑ์
-ท้าววิรูปักษ์มหาราช ปกครองเหล่านาคทั้งหลาย
-ท้าวเวสสุวรรณมหาราช ปกครองยักษ์


ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ
หรือมีจิตผูกพันธ์กับแม่น้ำและพญานาค หรืออธิฐานจิตขอเกิดเป็นพญานาค หรือมีวิบากกรรมต้องมาเกิดเป็นพญานาค
(ถึงแม้ทำบุญมามากแค่ไหนพอที่จะไปเกิดสวรรค์ชั้นสูง ๆ กว่านี้ได้ แต่ถ้ามีจิตผูกพันธ์ ยึดติดกับอะไรตายไปก็จะไปตรงนั้น)
ดังนั้นควรยึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดเพราะเป็นสรณะอันประเสริฐที่สุดเพียงหนึ่งเดียว

0 ความคิดเห็น:

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More