แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปักธงรบ (Ruttunyoo) แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปักธงรบ (Ruttunyoo) แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

พระคัมภีร์เก๊ แค่ตำรายา ถูกตัดออกจากมรดกธรรม ลวงประชา



พระคัมภีร์เก๊ แค่ตำรายา ถูกตัดออกจากมรดกธรรม ลวงประชา

คัมภีร์เก๊ คัมภีร์เก๊ แค่ตำรายา มีตาหามีแวว ศิษย์เค้ารู้กันทั่ว เรื่อง  อาจารย์ใหญ่เจ้าสุวรรณโคมคำหยิบผิดให้ตำรายามา อ้างเป็นตุเป็นตะเป็นพระคัมภีร์สุวรรณโคมคำโง่เขลาเบาปัญญาหลงเชื่อกันอยู่ได้ พระคัมภีร์ไม่อยู่กับคนแบบนี้หร๊อกเรื่องแดง ปีก่อนมีศิษย์ที่ชมรมบางคนแอบเปิดดู รู้เป็นตำรายา โดนไล่ออกจากชมรม พระคัมภีร์สุวรรณโคมคำเป็นของประเสริฐ จะมาอยู่กับพวกกาได้อย่างไรได้คัมภีร์วิเศษจริง ชีวิตไม่ตกต่ำ ตัวเรียวไม่ได้เรียนวิชาโหราหื่น ดูลักษณะสีวัยวะเพศ.......อย่างสอนกันที่ชมรมหื่นกามฯ กลัวจะเป็นเหมือนแสนสวาทที่คอยหื่นหอบเที่ยวป้ายสีคนอื่น เคลมศาล เคลมูลนิธิ ชีวิตของปกติดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นแต่ไม่ชอบเห็นคนโป้ปด จำเขียนป้องคนดีมีคุณธรรมศิษย์วงในรู้กันทั่ว เรื่องอาจารย์ใหญ่เจ้าสุวรรณโคมคำมีญาณหยั่งรู้ว่าจะมีศิษย์ทรยศ จึงถ่ายทอดวิชาแค่เศษ ๆ ที่ได้ ๆ ไปไม่ถึงเสี้ยวด้วยซ้ำ เณรถึงวิ่งโล่หาหลวงพ่อดินเป็นเกาะ ตกอับเลยกุเรื่องรอยเท้าสมเด็จสำทับอีกเรื่อง ศิษย์.อ.เทพฯซี้พ่อดิน พูดหมดเปลือกว่าพ่อดินไม่เล่นด้วย เนื่องเห็นเณรเสื่อมซ้ำซาก พ่อบอกไม่รักดี ช่างหัวมันเต๊อะคนระดับล่างอย่างแสนสวาทไม่น่าจะรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วยเพราะเพิ่งเข้ามาใหม่หลังเหตุเกิดเรื่องตำราหนังสือ อาจารย์ใหญ่ไม่ยอมให้ของจริง คิดเองไม่ได้ เลยก๊อปปี้หนังสืออาจารย์ใหญ่เจ้าสุวรรณโคมคำมาทั้งดุ้น ตั้งชื่อ ธัม_เสนาหอยอะไรของเธอน๊ะ บาปกรรม ทำไปได้ แสนสวาทราบมั่งเปล่า เมื่อไรจะหายโง่ซะทีนะ ?
ยังมาตั้งตัวแข่งเป็นปฐมาจารย์เกทับครูบาอาจารย์ ไม่เรียกเนรคุณจะให้เรียกอะไร หน้าไม่อายกะเรื่องมูลนิธินี่เธอช่างแสนรู้ดีทุกเรื่องเลยนะเธอเป็นกรรมการกะเค้ารึไงจ๊ะแม่คุณคนมูลนิธิเองท่าจะรู้ไม่เท่าเธอ ทำไมเธอไม่ไปขอเป็นกรรมการกะเค้าเลยน๊ะ เผื่อเขาจะเห็นเงาหัวเธอบ้างใช่ซิ๊ ใครเขาจะเอาเธอ แค่เห็นหน้าหื่น ๆ ของเธอ ก็ไม่มีใครคุยด้วยแล้วเธอสะเออะไปทุกเรื่องแล้วนะ หัดมีสมบัติผู้ดีมั่ง คนถึงว่า: ยัยคนนี้ อวดดี มั่วที่สุด สุมหัวด่าอาจารย์ใหญ่เจ้าสุวรรณฯร่วมกะเณรของเทอ แขวะวีรสตรีสุวรรณโคมคำตลอด รวมหัวใส่ร้ายมูลนิธิชื่อดัง เพื่อสร้างกระแสก่อนงานไหว้ครูทำไมไม่เลือกใช้วิธีที่มันดีกว่านี้ล่ะแม่คุณก่อนนี้ได้ยินแต่คำเล่าลือ เจอกะตัวถึงรู้ว่า เกินคาดนะเธอเนี่ยสมกว่าคำร่ำลือจริ๊ง ๆ นรกจะหัวเทอไม่ช้านี้ต่อไปกาอยู่ส่วนกา อย่าข้องแวะกะฝูงหงส์ บทเรยาของเธอมันจบแล้ว เงียบได้แล้วเลิกยัดเยียดความโง่เขลาของเธอให้คนอื่นได้แล้วเปลืองตัวกะเทอมาเยอะ พอซะทีกระทู้นี้ไม่ยินดีต้อนรับคนอย่างเธอ


บทความคัดลอก

            Realjung .

วีรสตรีแห่งสุวรรณโคมคำ หญิงผู้ปิดทองหลังพระ


วีรสตรีแห่งสุวรรณโคมคำ หญิงผู้ปิดทองหลังพระ
โดย Realjung (นักประพันธ์ฝีปากอมตะ)

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แนวคิดเชิงบริหารแบบโจโฉ



บรรยายโดย ป. รัตตัญญู

สามัคคี คือพลัง


วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โจโฉรำพึง

นอกด่านมีทหารกล้า ยกโยธาปราบเหล่าทมิฬ ชุมพลเริ่มเมิ่งจิน เพราะใจถวิลตรงเสียนหยาง รวมพลังไม่พร้อมมวล เคลือนขบวนรวนเรพลาง โลภโยกใจมัวหมาง ช้ำยังต่างฆ่ากันฟอน น้อมใช้สมญาราช ที่ตรามาตรอยู่อุดร เกาะกรายเเลือดหมัดชอน ราษฎรตายหมื่นพัน กระดูกขาวทั่วถิ่น พันโยชสิ้นเสียงไก่ขัน ราชร้อยรอดหนึ่งครัน ให้นึกพลั่นหวั่น
วิญญา (โจโฉ)


 
 มีคนถามผมว่าดูสามก๊กแล้วชอบใครเป็นพิเศษ ผมตอบอย่างมั่นใจเลยว่า "ไม่ชอบใครเลย" เพราะไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบสักคน


วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อาณาจักรสุวรรณโคมคำ



อาณาจักรสุวรรณโคมคำ : ตามตำนานของบ้านวังพวกราชวงศ์ซึ่งเป็นการอ้างอิงที่สำคัญส่วนหนึ่งของ เสนีย์อนุชิต ถาวรเศรษฐ มีการสืบทอด ตำนานการเกิดขึ้นของอาณาจักรสุวรรณโคมคำ ของรัฐนาคฟ้า (อาณาจักรนาคฟ้า) โดยมีความเกี่ยวข้องกับทั้ง ท้าวพิมพิสาร, เจ้าโพธิสาร และ เจ้าสังหลวัติ กล่าวได้ว่าทั้ง พระองค์นี้ถือเป็นผู้ให้กำเนิดอาณาจักรสุวรรณโคมคำมีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อยู่ประการหนึ่งว่า มหาจักรพรรดิท้าวเทวกาลนั้นมีพระราชโอรสและพระราชธิดาเป็นจำนวนมากมาย ทั้งฝ่ายมเหสีเชื้อสายศรีลังกา ตลอดจนพระชายาอื่น ๆ ไม่น้อยกว่า ๖๐ องค์ เป็นพระราชโอรสร่วมครึ่งหนึ่งในจำนวนทั้งหมด พระราชโอรสและพระราชธิดาเหล่านี้ได้อภิเษกสมรสระหว่างกันเอง ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎมณเฑียรบาล จึงต้องออกไปสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ ๆ ขึ้นมา โดยการนำของเจ้าชายสิงหลวัติ ก็เกิดการสร้างบ้านแปงเมืองของกลุ่มพี่น้องเพื่อปกครองชาวไตยวน ตามบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง (เชียงแสน-เชียงของ) ลุ่มแม่น้ำปิง (เชียงราย) และสุ่มแม่น้ำยม (พะเยา-แพร่, สวรรคโลก สุโขทัย) ได้ก่อกำเนิดเป็นแว่นแคว้นในระยะแรก ๆ โดยเรียกขานกันว่า แคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ ใช้เมืองนาคพันธุสิงหลวัติ (เมืองสวนตาล) เป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐ ซึ่งปัจจุบันนั้นคือจังหวัดพะเยา ...สันนิษฐานถึงช่วงเวลาของการก่อกำเนิดแว่น แคว้นนี้ประมาณ พ.ศ.๔๑๓ เป็นอย่างเร็วที่สุด กระทั่งช่วงเวลาต่อมาอีกหลาย ๆ ปีได้กลายเป็นอาณาจักรนาคพันธุสิงหลวัติตามตำนานการก่อกำเนิดแคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ (พะเยา) และแคว้น พิมพิสาร (พันพาน) ที่เกี่ยวโยงกับเจ้าพิมพิสาร-เจ้าสิงหลวัติ มีหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ที่อาจขัดแย้งในรายละเอียดต่าง ๆ แต่ก็เป็นที่ยอมรับถึงความมีอยู่จริง ตำนานทั้งเมืองเหนือและเมืองใต้ก็ไม่ได้มีอะไรขัดกันในประเด็นหลัก ๆ ซึ่ง กล่าวถึงการตั้งต้นก่อกำเนิดแคว้นทั้งสองแห่ง ...จากการตรวจสอบหลักฐานของ เสนีย์อนุชิต ถาวรเศรษฐ ทางตำนานเมืองเหนือได้กล่าวถึงเจ้าพิมพิสารและ เจ้าสิงหลวัติว่าเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน โดยเจ้าพิมพิสารนั้นเป็นพระเชษฐา ส่วนตำนานทางใต้ได้กล่าวถึงเรื่องราวของการก่อกำเนิดของแคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ สรุปความว่าเกิดขึ้นในสมัยมหาจักรพรรดิท้าวทองสิงห์ ซึ่งเจตนาสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นในแถบ ดินแดนลุ่มแม่น้ำโขง เพี่อเชื่อมโยงเส้นทางในทางบกสำหรับการเผยแพร่ศาสนาพุทธสู่ดินแดนสหราชอาณาจักรหนันเจ้า รายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าสิงหลวัติจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ตัวอย่างเช่นการ กล่าวถึงใน "ตำนานเรื่องราวก่อกำเนิดทั้งแคว้นพิมพิสารกับแคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ ก็บอกถึงว่าเจ้าพิมพิสารและเจ้าสิงหลวัติ ทั้งสองพระองค์นี้เป็นญาติลูกพี่ลูกน้อง" ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่ไปสอดคล้องกับผลงานการค้นคว้าตำนานสิงหลวัติ โยนกชัยบุรีเชียงแสนของ สงวน โชติสุขรัตน์ อ้างอิงได้จากหนังสือเรื่อง "ท้าวฮุ่ง ขุนเจือง วีรบุรุษสองฝั่งโขง ที่จัดพิมพ์ขึ้นมาโดยสำนักพิมพ์มติชน"อาจยังมีอยู่บางหลักฐานที่ยังหาคำตอบเรื่องเจ้าสิงหลวัติ เป็นใคร? และมาจากไหน? ตั้งแต่ข้อสงลัยว่า ถ้ามาจากมืองราคฤห์ แล้วเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ใด? มีบางส่วนตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าน่าจะอยู่แถบลุ่มแม่น้ำสาละวิน หรืออาจจะเป็นเมืองบางเมืองในอาณาจักรหนันเจ้า แต่นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ก็เห็นว่าตั้งอยู่ที่ "ราชบุรี"อย่างไรก็ตามหลักฐานที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน คงระบุว่า "เจ้าชายสิงหลวัตินั้นเป็นพระราชโอรสของมหาจักรพรรดิท้าวเทวกาล ซึ่งเป็นพระราชโอรสของมหามหาจักรพรรดิท้าวทองสิงห์แต่พระองค์มีพระราชมารดาเป็นสายราชวงศ์ศรีลังกา รวมทั้งมเหสีของเจ้าชายสิงหลวัติก็ยังเป็นราชวงศ์ศรีลังกา (ลังกาวงศ์) ด้วยเช่นกัน

เมื่อมิได้เป็นสายราชวงศ์ขอมหรือเชื้อสายเจ้าอ้ายไต ตามกฎมณเฑียรบาล จึงทำให้พระโอรสทุกพระองค์ของเจ้าชายสิงหลวัติไม่มีสิทธิในการสืบทอดราชสมบัติ ของสหราชอาณาจักรเทียน ....นี้เป็นเหตุผลที่สามารถอธิบายได้ว่า "เจ้าชายพิมพิสาร ซึ่งเป็นพระญาติลูกพี่ลูกน้องและเป็นพระราชโอรสของท้าวสิงห์พิมพ์ได้กลายเป็นผู้ รับสืบทอดตำแหน่งมหาจักรพรรดิของสหราชอาณาจักรเทียนในช่วงเวลาต่อมา..."

ระยะเวลาเดียวกันนี้ก็เกิดปัญหาของชนชาติอ้ายไตในดินแดนหนันเจ้า ทั้ง แคว้นเสี่ยงให้ (เซี่ยงไฮ้ หรือ แคว้นอู๋) รวมทั้ง อาณาจักรหนานจ้วงหรือไตจ้วง (กวางตุ้ง, กวางสี, ตาเกี๋ย) ถูกกองทัพจีนเข้าทำการยึดครอง ...การอพยพของกลุ่ม เชื้อสายอ้ายไตที่หลบภัยสงครามเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนลุ่มแม่นํ้าโขง, แม่น้ำยม, แม่น้ำอิง ซึ่งเป็นดินแดนของสหราชอาณาจักรเทียน ...ตรงนี้น่าจะเป็นอีกเหตุผล ของการสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ เพิ่มขั้นเพื่อรองรับประชาชนกรผู้อพยพเชื้อ สายบรรพบุรุษเดียวกัน ตลอดจนบริเวณดังกล่าวก็ยังไม่มีผู้ปกครองที่จะดูแลความเป็นไปและความสงบเรียบร้อยต่าง ?

ต่อช่วงจากสมัยมหาจักรพรรดิท้าวทองสิงห์ ก็เข้าสู่สมัยของหาจักรพรรดิ ท้าวเทวกาล ซึ่งเกิดเหตุการณ์ใน พ.ศ.๔๓๒-๔๓๕ ทางฝ่ายสหราชอาณาจักรหนัน เจ้า ถูกรุกหนักด้วยกองทัพใหญ่ของจีน สงครามมีความรุนแรงถึงชั้นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนชาติอ้ายไตที่เป็นชาวพุทธก็อพยพเคลื่อนย้ายสู่สหราชอาณาจักรเทียน เป็นอีกระลอกใหญ่ทีเดียว ..ผู้คนส่วนใหญ่จะพากันมุ่งเข้าไปตั้งรกรากอยู่ในแคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ (พะเยา) มีบางส่วนที่ต่อแพล่องตามแม่น้ำโขงไปยังดินแดนอาณาจักรคามลังกา ส่วนพวกอพยพด้วยเรือสำเภาจะมุ่งไปยังอาณาจักรชวาทวีป (ปักษ์ใต้ตอนบน)

มหาจักรพรรดิท้าวเทวกาลได้ทรงมีพระราชบัญชา ให้ท้าวพิมพิสารไปรับภารกิจเพื่อรวบรวมบรรดาผู้อพยพที่มาโดยสำเภา เข้าไปในอาณาจักรชวาทวีป ให้รวมสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นมาเพิ่มเติมบริเวณภาคใต้ตอนบนในปัจจุบัน ซึ่งได้เกิดแว่นแคว้นขึ้นหลายแห่ง เช่น แคว้นโพธิสาร (พุนพิน) แคว้นพินธุสาร (ชุมพร) และ แคว้นพันธุสาร (หลังสวน)

พร้อมกันนั้นเจ้าโพธิสาร ซึ่งเป็นโอรสของ "ท้าวพิมพิสาร" ก็ถูกมอบหมายให้เข้าไปช่วยเหลือผู้อพยพกลุ่มใหญ่ที่สุดในอาณาจักรคามลังก แล้วดำเนินการเคลื่อนย้ายต่อไปยังดินแดนลุ่มแม่น้ำอิง, แม่น้ำยมและแม่น้ำโขง สร้างเป็นอาณาจักรขึ้นเรียกว่า อาณาจักรสุวรรณโคมคำ

จิตร ภูมิศักดิ์ เคยค้นคว้าตำนานสิงหลวัติ ก็เคยกล่าวถึงเรื่องราวของการอพยพเหล่านี้ ระบุว่า "มีพวกกรอม (ขอม) จากนครอินทปัต (เมืองหลวงของอาณาจักรคามลังกา) ได้อพยพครอบครัวเข้าไปสมทบถึงวันละ ๒,๐๐๐ ครอบครัว มิได้ขาด ตลอดช่วงเวลาถึง ๓ ปี เป็นผู้คนกว่าแสนครอบครัว"

เสนีย์อนุชิต ถาวรเศรษฐ ได้ประมวลผลข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ แล้ว สรุปว่า "อาณาจักรสุวรรณโคมคำ น่าจะถูกสร้างขึ้นมาประมาณ พ.ศ.๔๓๒-๔๓๕ สืบเนื่องจากผลของผู้อพยพหลบภัยสงครามจากหนันเจ้าเข้ามาสู่สุวรณกูมิ โดยมีศูนย์ กลางอำนาจรัฐในช่วงแรกๆอยู่ที่แคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ (พะเยา)..."

อาณาจักรสุวรรณโคมคำ ประกอบไปด้วยแว่นแคว้นดังต่อไปนี้ คือ แคว้นนาคพันธุสิงหลวัติ (พะเยาหรือเมืองสวนตาล), แคว้นสุวรรณคำหลวง (เชียงแสน), แคว้นนาคอง (เชียงราย), แคว้นตุมวาง (แพร่) โดยมีมหาราชาสิงหลวัติ เป็นผู้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้เป็นรัชสมัยที่หนึ่ง

อาณาจักรสุวรรณโคมคำที่ได้รับนามเช่นนี้ จิตร ภูมิศักดิ์ ได้กล่าวถึงสาเหตุซึ่งเรียกชื่อเช่นนี้ว่า "...เพราะมีการตั้งเสาโคมทอง แขวนโคมบูชาพระพุทธเจ้า ไว้ที่ท่าน้ำริมแม่น้ำโขงไปทั่วเมือง" ...ส่วนในงานค้นคว้าของเสนีย์อนุชิต ถาวรเศรษฐ เขาได้กล่าวว่า "...ที่เรียกชื่ออาณาจักรสุวรรณโคมคำ เพราะมหาจักรพรรดิท้าวเทวกาลรับสั่งให้ผู้อพยพได้สร้างเป็นโคมคำเพื่อไวใช้จุดเทียนไว้ในภายโคมคำนั้นเมื่อถึงยามพลบค่ำ เป็นการร่วมสวดมนต์อุทิศแผ่ส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของชาวพุทธ ซึ่งล้วนแต่เป็นชาวอ้ายไตที่ถูกกองทัพจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์..."ทุก ๆ บ้านเรือนที่อยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง,ลุ่มแม่น้ำอิงและลุ่มแม่น้ำยม จึงมีการจุดโคมคำเอาไว้ทุก ๆ บ้าน ยังอาจถือเป็นการปลุกเร้า สร้างกระแสความรักชาติของชาวอ้ายไตเพี่อหวังให้ลุกขึ้นต่อสู้กอบกู้อธิปไตยและดินแดนของ ตนกลับคืนมา...ต่อมาอาณาจักรสุวรรณโคมคำ ก็ได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง เรียกว่า เมืองสุวรรณคำหลวง(เชียงแสน)...อาณาจักรแห่งนี้ถือเป็นฐานสำคัญมี บทบาทเผยแพร่พุทธศาสนาสายเถรวาทเข้าสู่แว่นแคว้นหลายแห่งของสหราชอาณา จักรหนันเจ้าและดินแดนจีนโดยใช้เส้นทางบกในกิจกรรมนี้... อาณาจักรสุวรรณโคมคำ กลายเป็นหลังอิงของพวกอ้ายไตในงานกู้ชาติ....
 
 

สำหรับเจ้าโพธิสาร เมื่อได้ร่วมสร้างอาณาจักรสุวรรณโคมคำขึ้นมาใน
รัฐนาคฟ้า ภารกิจเสร็จสิ้น ก็ได้เสด็จกลับคืนไปสู่แว่นแคว้นทางใต้ ทั้งแคว้น
โพริสาร, แคว้นพินธุสารและแคว้นพันธุสารในอาณาจักรชวาทีป

 
 คัดลอก
http://www.usakanae.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539357805

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ศาลยกฟ้องคดีนายอารมณ์


เนื่องจากเป็นข่าวโด่งดัง  ถึงความหื่น ของนายอารมณ์เจ้าสำนัก ชมรมโหราสาดสุวรรณกุมกามอยู่แถวๆๆ สาธุประดิษฐ์   โดนฟ้องคดียักยอกทรัพย์ และข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์ตัวเอง อักษร จ และ ฮ ลูกศิษย์ทั้ง สองได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเพื่อดำเนิน คดี ต่อนายอารมณ์เพื่อให้ความยุติธรรมบังเกิดมีแก่ตนเอง...อักษร จ และ ฮ.ได้ให้การกับศาลว่าได้ถูกนายอารมณ์ ข่มขืนหลายครั้งและมีการ ล่มปากอ่าวทุกครั้ง และได้บอกขนาดอวัยวะเพศ ของนายอารมณ์ได้อย่างชัดเจน สุดท้ายศาลได้พิจารณาถึงการข่มขืนโดยสอบถามไปยังนายอารมณ์ว่าได้ข่มขืน บุคคลทั้งสองจริง หรือไม่ นายอารมณ์ บอกศาลว่า..ไม่ได้ข่มขืน เพราะ ขาของ  อักษร จ และ ฮ เกี่ยวหลัง นายอารมณ์ ทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ ..(ฮ๋าาาาา)..เขาไม่ได้เรียกว่าข่มขืน จึงเป็นการสมยอมเสียมากกว่า....ศาลจึงยกฟ้องไม่เอาความ....และตอนนี้ท่านอารมณ์กำลังดำเนินการ ฟ้องคดีหมิ่นประมาท  อักษร จ และ ฮ อยู่ในขณะนี้..


โปรดติดตามตอนต่อไป ครับ

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More