จับ'หมอดู'ข่มขืนม.2บังคับค้ากาม

จับหมอดูวัย 57 ลวง 4 นักเรียนหญิงเปลี่ยนชื่อสะเดาะเคราะห์ สบช่องข่มขืนบังคับค้ากาม ไม่ยอมขู่ทำคุณไสย ค้นสำนักโหรย่านหนองแขมเจอถุงยาง-ไวอากร้าเพียบ

              การบุกจับกุมหมอดูลวงข่มขืนเด็กสาวพร้อมทั้งบังคับให้ค้ากามครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผกก.1 บก.ปคม.) พ.ต.ท.อัศวิน หวังสู้ศึก รอง ผกก.1 ปคม. นำกำลังพร้อมนำหมายศาลเข้าจับกุมนายทรงวุฒิ เจริญชัย อายุ 57 ปี เจ้าสำนักโหราศาสตร์"อาจารย์ณัชชวี" ตั้งอยู่เลขที่ 65/7 ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี เป็นธุรกิจจัดหาให้มีการค้าประเวณี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่พบนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ย่านบางแค 4 คน นั่งรอให้หมอดูเปลี่ยนชื่อ โดยตึกดังกล่าวสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นตำหนักโหราศาสตร์ดูดวง ดูฤกษ์ ชั้น 2 เปิดเป็นห้องทำพิธีกรรมลงนะหน้าทอง ส่วนชั้น 3 เป็นห้องว่าง จากการตรวจค้นภายในชั้น 2 พบถุงยางอนามัยจำนวนมาก อวัยวะเพศชายปลอม 1 อัน กาแฟปลุกเซ็กส์หลายซอง ยาไวอากร้า เสื้อผ้าและกางเกงในผู้หญิงจำนวนมาก

     

                   พ.ต.อ.ชิตภพกล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา นักเรียนหญิงโรงเรียนชื่อดังย่านศาลายา 4 คน เดินทางเข้าพบตำรวจ บก.ปคม.ระบุว่า ถูกผู้ต้องหากระทำชำเราและบังคับให้ค้าประเวณี โดยทั้งหมดถูกหลอกจากเพื่อนผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนให้ไปพบผู้ต้องหา อ้างว่าทุกคนกำลังมีเคราะห์ ถ้าเปลี่ยนชื่อจะดีขึ้น ทุกคนจึงหลงเชื่อ โดยผู้ต้องหาให้สลับกันขึ้นทำพิธีที่ชั้น 2 ทีละคน จากนั้นหลอกให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วให้นอนลง นำผ้าขาวมาคลุมตัวไว้ และร่ายมนต์คาถา พร้อมใช้มือลูบคลำอวัยวะเพศก่อนจะลงมือข่มขืน สุดท้ายจะบอกกับทุกคนว่า "พิธีกรรมสำเร็จแล้ว ต่อไปนี้จะโชคดี ชีวิตเจริญก้าวหน้า มีเงินมีทองเข้ามาตลอด"

     

                   “หลังจากเด็กกลับบ้าน ผู้ต้องหายังโทรติดต่อกับทุกคน บอกว่าถ้าใครอยากได้เงินใช้ให้มาหาอาจารย์ หากใครไม่มาหาจะเสกคุณไสยเข้าท้อง ทุกคนกลัวจึงกลับมาอีก ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลอกให้ค้าประเวณีกับผู้ชายหลายคน โดยคนที่ได้ค่าตัวสูงสุดอยู่ที่ 4,000 บาท ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง” พ.ต.อ.ชิตภพกล่าว

     

                   ผกก.1 บก.ปคม.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นชาว จ.อุดรธานี เมื่อ 20 ปีก่อนได้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดใน จ.อุดรธานี ประมาณ 10 พรรษา ต่อมาเกิดศรัทธาและคลั่งไคล้วิชาไสยศาสตร์ จึงเดินทางมาหาห้องเช่าที่กรุงเทพฯ และเปิดตำหนักโหรที่ตึกดังกล่าว พร้อมกับตั้งตนเป็นอาจารย์รับดูดวง ดูฤกษ์ เปลี่ยนชื่อ นามสกุล และดูโหราศาสตร์ ส่วนถุงยางที่พบนั้นซื้อเก็บไว้ใช้เอง และใช้ยาไวอากร้าทุกครั้ง เพราะอายุมากแล้ว ส่วนเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นของคนอื่นที่เข้ามาเรียนเรื่องการนวดถอดทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจคำให้การ เนื่องจากพยานหลักฐานแน่นหนา จึงควบคุมตัวไปที่ บก.ปคม. เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Posted in: สารพันข่าว