การอยู่กับปัจจุบัน ไม่เอาความผิดพลาดในอดีตมาครุ่นคิดให้เป็นทุกข์นั้น เป็นเพียงการทำให้วิบากหรือผลของกรรมในอดีตนั้นไม่เพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถตัดกรรมหรือวิบากกรรมได้ กรรมใด ๆ ที่ทำไปแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ (เว้นแต่จะย้อนเวลากลับไป แต่นั่นยังเป็นแค่นิยายอยู่)
เมื่อไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ วิบากกรรมก็ต้องเกิดขึ้นและอาจส่งผลมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่เราควรทำก็คือยอมรับผลแห่งกรรมนั้น ไม่ตีโพยตีพาย ถ้าสามารถทำใจให้ไม่เป็นทุกข์เมื่อประสบวิบากกรรมนั้นก็ยิ่งดี เพราะหากเป็นทุกข์ก็ย่อมนำไปสู่การปรุงแต่งหรือเกิดการกระทำอันใหม่ขึ้นที่ไม่ดี (เช่น กังวลหงุดหงิดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หรือระบายความทุกข์ใส่คนอื่น หรือโกรธจนต้องแก้แค้นตอบโต้กลับไป) ทำให้เกิดวิบากตามมาอีก
การตัดกรรมและการแก้กรรมนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ดังที่กล่าวไปแล้ว เป็นแค่สำนวนหรือคำพูดที่จูงใจเท่านั้น แต่ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า สิ่งที่ทำได้นอกจากที่กล่าวมาก็คือ สร้างกรรมดีขึ้นมาเพื่อบรรเทาผลแห่งกรรมนั้น เปรียบเหมือนกับการเติมน้ำที่ใสสะอาดลงในภาชนะที่มีน้ำดำคล้ำ ยิ่งเติมน้ำใสลงไปมากเท่าไหร่ น้ำในภาชนะก็จะคล้ำน้อยลง ที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะฝุ่นโคลนลดน้อยลง มันยังเท่าเดิม แต่ผลเสียลดน้อยลงเพราะมีน้ำที่ใสสะอาดมาช่วยบรรเทา
บทความคัดลอก(วิสัชนา หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)http://www.visalo.org/QA/Q551115.htm
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น