วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

กรรมที่ทำให้ได้รับผลเป็นความไม่ตกต่ำ


บทความโดย....Jit


         
ภิกษุทั้งหลาย   แต่ชาติที่แล้วมาแต่อดีต  ตถาคตได้เคยเจริญเมตตาภาวนาตลอด ๗ ปี  จึงไม่เคยมาบังเกิดในโลกมนุษย์นี้ ตลอด ๗ สังวัฏฏกัปป์ และวิวัฏฏกัปป์  ในระหว่างกาลอันเป็นสังวัฏฏกัปป์นั้น  เราได้บังเกิดในอาภัสสรพรหม  ในระหว่างกาลอันเป็นวิวัฏฏกัปป์นั้น  เราก็ได้อยู่พรหมวิมานอันว่างเปล่าแล้ว.   ภิกษุทั้งหลาย  ในกัปป์นั้น  เราได้เคยเป็นพรหม ได้เคยเป็นมหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่  ไม่มีใครครอบงำได้ เป็นผู้เห็นสิ่งทั้งปวงโดยเด็ดขาด  เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด.   ภิกษุทั้งหลาย  เราได้เคยเป็นสักกะ  ผู้เป็นจอมแห่งเทวดา  นับได้ ๓๖ ครั้ง  เราได้เคยเป็นราชาจักรพรรดิผู้ประกอบด้วยธรรม  เป็นพระราชาโดยธรรม  มีแว่นแคว้นจรดมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นที่สุด เป็นผู้ชนะแล้วอย่างดี  มีชนบทอันบริบูรณ์ประกอบด้วยแก้วเจ็ดประการ  นับด้วยร้อย ๆ ครั้งทำไมจะต้องกล่าวความเป็นราชาตามธรรมดาด้วย.   ภิกษุทั้งหลาย   ความคิดได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ผลวิบากแห่งกรรมอะไรของเราหนอ  ที่ทำให้เราเป็นผู้มีฤทธิ์มากถึงอย่างนี้  มีอานุภาพมากถึงอย่างนี้  ในครั้งนั้น ๆ .   ภิกษุทั้งหลาย  ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า   ผลวิบากแห่งกรรม ๓ อย่างนี้แล  ที่ทำให้เรามีฤทธิ์มากถึงอย่างนี้  มีอานุภาพมากถึงอย่างนี้,
   
วิบากแห่งกรรม ๓ อย่าง ในครั้งนั้น คือ
   
๑.ผลวิบากแห่งทาน  การให้
   
๒.ผลวิบากแห่งทมะ  การบีบบังคับใจ
   ๓.ผลวิบากแห่งสัญญมะ  การสำรวมระวัง
   
ดังนี้.




 อ้างอิง
  อิติวุ.  ขุ.  ๒๕/๒๔๐/๒๐๐.

0 ความคิดเห็น:

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More